nut
รบกวนสอบถามการเลี้ยวรถเกียร์ธรรมดาค่ะ (42768 views)
22 May 2012 18:46
เป็นคนถนัดในการเหยียบครัชก่อนเลี้ยวรถมาก ถ้ากรณีที่รถมาช้าเวลาเหยียบครัชแล้วเลี้ยวรถจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่กรณีที่มาเกียร์ 3 แล้วเปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 ก่อนถึงทางเลี้ยว แต่พอเหยียบครัชแล้วทำการเลี้ยวมีความรู้สึกว่ารถมันไปไวมากเหมือนรถมันวืด ๆ การทำแบบนี้ผิดใช่มั้ยค่ะ เห็นมีคนบอกว่าห้ามเหยียบครัชแต่ให้เหยียบเบรคเบา ๆ แล้วปล่อย ถ้าแบบนี้ถือว่าถูกใช่มั้ยค่ะ แต่ยังไม่เคยทดลองทำ อีกข้อนะคะ กรณีที่เรามาเกียร์ 4-5 พอใกล้ถึงทางเลี้ยวที่ถูกเราควรเปลี่ยนเป็นเกียร์อะไรค่ะ ก่อนที่จะเลี้ยว
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ
nut
Guest
Webmaster
22 May 2012 20:46 #1
เอาแบบ back to basis ก่อนนะคะ ทุกครั้งที่เปลี่ยนเกียร์จะต้องเหยียบคลัช ในเวลาที่รถช้ามากๆๆ ช่วงเลี้ยวจะต้องมีการเลี้ยงคลัช ถ้าไม่เลี้ยงคลัช รถช้ามาก รถจะดับ
แต่ถ้ารถมาด้วยความเร็ว แล้วอยู่ๆ เหยียบเบรค พร้อมเหยียบคลัช รถจะแถและเหวี่ยงแน่นอนค่ะ เพราะรถยังคงความเร็วอยู่เพราะเราเพิ่งเริ่มเบรค เพราะคลัชและเกียร์เป็นตัวเชื่อมระหว่าง เครื่องยนต์และล้อ เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ล้อมันก็จะหมุนและมีแรงกดลงไปบนพื้นถนนและให้เคลื่นที่ไปตามความสัมพันธ์ของรอบเครื่อง หากรถมาด้วยความเร็วเราเบรคเหยียบ พร้อมเหยียบคลัช การเหยียบคลัช เป็นการแยกส่วนของเครื่องยนต์และล้อ คืออธิบายอย่างย่อและให้เห็นภาพ เมื่อเหยียบคลัช ก็จะเป็นแยกกันระหว่างเครื่องยนต์ และล้อรถ ล้อมันก็จะหยุดหมุนเพราะไม่มีความเชื่อมส่งระหว่างเครื่องยนต์มาล้อแล้ว แต่ขณะที่เครื่องมันทำงานมีแรงอัด เพราะเราพึ่งจะเบรค ขณะที่เราเบรครถยังไม่ได้หยุด รถพุ่งแต่ล้อไม่หมุน มันก็เหวี่ยงและแถออกเป้นธรรมดา
ดังนั้นเมื่อเห็นโค้งควร เหยียบเบรค โดยไม่ต้องเหยียบคลัชนะ จนรถชะลอความเร็ว จากนั้นต้องความเร็วเครื่องให้สัมพันธืกับเกียร์ที่ต้องใช้ เมื่อรถถูกเบรคจนช้าลงมาก จำเป็นต้องลดเกียร์ลง เมื่อต้องเปลี่ยนเกียร์ก็ต้องเหยียบคลัชแล้วเปลี่ยนเกียร์
ส่วนควรใช้เกียร์อะไร บอกไม่ได้ค่ะ ขึ้นกับความเร็วขณะนั้น และองศาของโค้ง ถ้ามาโค้งมาก รถก็ต้องช้ามาก เช่นโค้งหักศอก อาจจะต้องอยู่ที่เกียร์ 2 ถ้าโค้งไม่มากแค่ชะลอความเร็ว โดยการเบรค ไม่ต้องลดเกียร์ต่ำ สามารถเลี้ยวให้อยู่ในเลนส์ได้ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์
จริงๆ ตอบไป ก็ งง ตัวเอง ไม่แน่ใจว่าตอบตรงคำถามหรือป่าวอะ
Webmaster
Admin
nut
23 May 2012 07:31 #2
ขอบคุณค่ะสำหรับคำตอบ เคยเรียนขับรถมาที่นึง ที่นั่นเค้าจะเน้นให้เหยียบคลัชเป็นหลักไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ทำให้เราติดนิสัยนี้มาแล้วรู้สึกว่าจะเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย แต่ก็จะพยายามค่ะ แต่พอมาเรียนที่สไมล์แล้วประกอบกับคนรู้จักบอกว่าที่จริงเราควรจะต้องเหยียบเบรคก่อนแล้วพอรถใกล้หยุดค่อยเหยียบคลัช แล้วจะเหยียบคลัชก็เฉพาะตอนจะเปลี่ยนเกียร์ ตอนนี้พยายามแล้วแต่ก็ยังทำไม่ได้เลยค่ะ พอจะเลี้ยวหรืออยากให้รถช้าลงก็จะเคยเป็นนิสัยจะเหยียบคลัชก่อนตลอด ขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับคำตอบ ยังไงจะพยายามฝึกต่อไป ขอบคุณค่ะ :-_-:
nut
Guest
Webmaster
23 May 2012 09:36 #3
ที่โรงเรียนเก่าสอนมาแบบให้เลี้ยงคลัชเสมอ อยากจะทำความเข้าใจนิดนึงค่ะ อย่าพึ่งไปต่อว่าเค้า เพราะธรรมดาของโรงเรียนสอนขับรถ เวลาให้นักเรียนขับแทบจะไม่ได้ใช้ความเร็วอยู่แล้ว หรือเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการวนในสนาม เรียกว่าเวลาเรียนจะได้ขับถึงเกียร์ 4-5 แทบหมดสิทธิ์ ดังนั้นตอนที่เราเรียนใหม่ ๆ รถไม่ได้ใช้ความเร็ว ขับแบบเวลาเลี้ยวหรือ เบรค รถแทบหยุด ดังนั้นต้องเลี้ยงคลัชช่วยเป็นธรรมดา
แต่พอเรามาเรียนกับที่นี่คอร์สที่ 2 ด้วยความที่เรามีพื้นฐานมาแล้ว เราเลยไม่ได้อยู่ในสนามมากเท่าใดนัก พอต้องเรียนออกถนน รถได้ใช้ความเร็ว จึงต้องมีการปฏิบัติไปในอีกรูปแบบนึง ถามว่าเค้าสอนผิดหรือป่าว ถ้าเป็นไปตาม condition ที่พี่กล่าวมาคืออยู่ในสนาม เค้าก็ไม่ได้สอนผิด เพียงแต่สอนไม่ครบ ไม่ได้บอก beyond ต่อไปเท่านั้นเองว่า ถ้ารถเร็วเราต้องทำอย่างไร เลยทำให้เราเอามา apply ไม่ถูก
ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ หรือคำถามอะไรก็มา Post ถามในนี้ได้เลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเรียน ถ้าตอบได้จะพยายามตอบให้ดีที่สุด
ปล เพราะครูบอกว่าพี่พูดไม่รู้เรื่อง แต่พี่ก็ว่าพี่ก็พูดกะครูที่นี่ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน
Webmaster
Admin
nut
23 May 2012 13:28 #4
จะบอกว่าอ่านรู้เรื่องนะคะ แต่บางทีการบอกเป็นตัวอักษรมันจะบอกยากกว่าการได้ไปปฏิบัติจริง ตอนขับเองใหม่ ๆ เลี้ยวรถไม่ได้เลยดับตลอดเครียดมาก แต่ได้เข้ามาอ่านที่นี่ ที่เขียนไว้ว่ามือใหม่เวลาเลี้ยวให้ปล่อยครัชแค่ครึ่งเดียวก่อนพอเลี้ยวไปแล้วค่อยปล่อยหมด กลับไปทำตอนนี้เลี้ยวรถไม่ดับแล้วค่ะ แต่ยังเลี้ยวได้ไม่ดีคนนั่งข้างๆ ยังลุ้นๆ กันอยู่ว่าจะหลุดโค้งป่าว ทุกวันนี้ยังขับอยู่ในหมู่บ้านไปก่อน เอาไว้มั่นใจตัวเองกว่านี้อีกสักหน่อยค่อยออกไปที่ถนน เป็นห่วงคนนั่งไปด้วย
nut
Guest
Webmaster
23 May 2012 20:09 #5
การขับรถให้เก่งต้องฝึกบ่อยๆ ค่ะ ดังนั้นอย่าเพิ่งท้อนะ เกียร์ธรรมดามันยากกว่าเกียร์ออโต้อยู่แล้ว ฝึกบ่อยๆ พอจับจุดได้ ถึงความสัมพันธ์ของอุปกรณ์ทุก ประสาทสัมผัสของอวัยวะเราทั้งหมด มันทำงานสอดคล้องกัน เดี๋ยวก็จะชำนาญขึ้นมาเอง แล้วไม่ต้องกลัวเลยว่าจะลืม ต้องให้ร้างลาไปนานแค่ไหนก็ขับได้ค่ะ
Webmaster
Admin
มือใหม่มาก
30 Jul 2012 20:09 #6
ยังสงสัยอยู่ดีค่ะ ตามที่เข้าใจนะคะ ถ้าถึงทางเลี้ยวให้ชลอ เเตะเบรก เเล้วเหยียบคลัตช์เข้าเกียร์หนึ่งทุกครั้งหรือเป่าคะ ถ้ารถมันหยุดก่อนเลี้ยว หรือว่าค้างเกียร์สองได้โดยเหยียบทั้งคลัตช์ทั้งเบรกเพื่อให้รถหยุด พอเริ่มเคลื่อนก็ปล่อยเบรก ค่อยๆปล่อยคลัช เเล้วเหยียบคันเร่ง ตอนเกียร์สอง
เเต่ถ้ารถไม่หยุด อยู่เกียร์สอง เวลาเลี้ยวใช้วิธียกคันเร่ง เเตะเบรกเบาๆ ไม่จำเป็นต้องเหยียบคลัช หรือว่าต้องเหยียบเพื่อกันเครื่องดับ
มือใหม่มาก
Guest
สไมล์
30 Jul 2012 21:09 #7
เอาใหม่ๆ นะคะ
ถ้ารถอยู่เกียร์ 3 4 5 แล้วความเร็ว สัมพันธ์กับเกียร์ เช่น 60 up เราสามารถเหยียบเบรค โดยไม่ต้องเหยียบคลัชได้ เพราะเหยียบคลัช ในขณะที่รถมีความเร็วสูง เกียร์สูง จะทำให้รถเสียการทรงตัว หากสามารถเลี้ยวได้โดย ไม่ต้องลดความเร็วมาอยู่ที่เกียว์ 1หรือ 2 สามารถ เหยียบเบรคแล้วเลี้ยวได้ค่ะ แต่ถ้า....
รถหนูอยู่ในเกียว์ 1 หรือ 2 ความเร็วต่ำสัมพันธ์กับเกียร์นะ กรณีนี้เบรคเหยียบ แล้วต้องเหยียบคลัชช่วยค่ะ ไม่งั้นรถจะดับ ต้องเลี้ยงคลัชช่วย พี่ต้องย้ำเรื่องความเร็ว นิดนึง หลักง่ายๆ คือ จะเลี้ยงคลัชเมื่อความเร็วต่ำ เพื่อประโยชน์ต้องเปลี่ยนเกียร์ หรือเข้าเกียร์ในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ดังนั้นถ้ารถหยุดแล้วค่อยเลี้ยว ยังไงหนูก็ต้องเหยียบคลัช แต่เราไม่จำเป็นต้องเลี้ยวที่เกียร์ 1 เสมอไปนะ จะเลี้ยวเกียร์อะไรต้องดูให้เหมาะสมกับความเร็วรถที่หนูจะสามารถควบคุมรถให้อยู่ในเลนส์เดินรถของตัวเองด้วย ถ้าหนูเลี้ยวได้เร็ว คืนพวงมาลัยทัน ไม่กินเลนส์เพื่อน ความเร็วอยู่ในเกียร์ 3 เกียร์ 4 หนูก็สามารถเลี้ยวได้ค่ะ แต่ถ้าหนูต้องชะลอรถให้ช้า แล้วค่อยๆเลี้ยว เกียร์ก็ต้องถูกลดมาให้เหมาะสมกับความเร็ว เช่นเราวิ่งมาเกียร์ 3 เบรกจนรถแทบหยุดเกียร์จาก 3 ต้องลด มาที่ 1 เหยียบคลัช แล้วเลี้ยว ดังนั้นเกียร์อะไร ความเร็วเท่าไหร่ ต้องให้เหมาะสมกัน คลัชมักใช้ตอนความเร็วต่ำเกียร์ต่ำ ขณะเดียวกันอยู่เกียร์ 5 ความเร็ว 40 หนูก็เลี้ยวไม่ได้เหมือนกัน ถึงขั้นเกียร์พัง ถ้าตัวหนังสือเข้าใจยากกว่า หนูโทรหาครู หรือโทรเข้าโรงเรียนจะดีกว่าค่ะ คุยกันด้วยคำพูดน่าจะง่ายกว่า สงสัยประเด็นไหนอะไรต่อจะได้ซักถามกันได้เข้าใจ เพราะบางทีพี่ตอบเป็นตัวหนังสืออาจจะไม่ครอบคลุมที่หนูสงสัยทั้งหมด
** ขออนุญาตเข้าไปแก้ไขนะคะ เมื่อคืนพิมพ์จากมือถือ พิมพ์ผิดเต็มไปหมด เห็นแล้วทนไม่ได้กับภาษาไทยแบบนี้ค่ะ มันเป็นความรู้สึกส่วนตัวค่ะ หรือไม่ก็แก่เกินไป หนูไม่ใช้สก๊อยส์**
สไมล์
Guest
มือใหม่มาก
30 Jul 2012 23:10 #8
อ่อเข้าใจเเล้วค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลองฝึกดูค่ะ พอดีพึ่งขับรถมาได้สามวัน เลยยังไม่คล่องเรื่อง เกียร์ คสัช เวลาเลี้ยว เเต่ทางตรงขับสบายเเล้วค่ะ
ขอบคุณค่ะ
มือใหม่มาก
Guest
มือใหม่มาก
31 Jul 2012 06:09 #9
ขออีกคำถามนะคะ เวลารถหยุดเเช่เกียร์สองได้เลยหรือคะ เวลาเลี้ยว ไม่จำเป็นต้องเข้าเกียร์หนึ่ง
มือใหม่มาก
Guest
Webmaster
31 Jul 2012 13:16 #10
แช่เกียร์ 2 แปลว่า ถ้ารถเคลื่อนจะออกตัวด้วยเกียร์ 2 ปะค่ะ >> สามารถทำได้ค่ะ มันจะออกตัวได้เร็วกว่าเกียร์ 1 แต่ข้อเสียที่ตามมาคือ อย่างแรก คือ เปลืองน้ำมัน เพราะรอบเครื่องไม่สัมพันธ์กับเกียร์ ตอนรถจะออกตัว รอบเครื่องจะต่ำ ต้องเร่งขึ้นๆ เพื่อให้รอบเครื่องมันสูงขึ้น ปกติรอบเครื่องต่ำเราจะเริ่มจากเกียร์ต่ำ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำตามมา คือเลี้ยงคลัชช่วยไปตลอด จนกว่ารอบเครื่อง ความเร็วรถ และเกียร์จะสัมพันธ์กัน คลัชจะไหม้ได้ค่ะ ระยะยาว เกียร์ เฟืองเกียร์ เฟืองท้าย ยางแท่นเครื่องจะหมดอายุการใช้งานเร็วกว่าปกติ ถ้าเป็นรถกระบะ cc สูง แรงม้าเยอะ ออกตัวเกียร์ 2 ไม่ค่อยดับทำได้ แต่ถ้ารถเก๋ง รถเบนซิน หมดสิทธิ์ แรงม้าน้อยกว่ารถกระบะ ไม่มีแรงพุ่งออกตัว ควรออกตัวที่เกียร์ 1 รถดับบนถนนมันอันตรายค่ะ
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ เวลาเลี้ยวไม่จำเป็นต้องอยู่เกียร์ 1 ถ้าเราเลี้ยวได้ โดยให้รถมันอยู่ในเลนส์ ในระดับที่ความเร็ว กับเกียร์สัมพันธ์กัน เช่น เกียร์ 3 ความเร็ว 60 เราคิดว่า เราเลี้ยวได้ ก็ไม่ต้องลดเกียร์มาที่เกียร์ 1 แตะเบรค ให้รถชะลอนิดนึงแล้วเลี้ยวได้เลย แต่ถ้าเลี้ยวไม่ได้ ต้องรถให้ความเร็วช้าลงมากๆ หรือ เจอโค้งหักศอกที่ต้องใช้ความเร็วต่ำ ต้องลดความเร็วลงมา แล้วลดเกียร์ตามด้วยค่ะ เลี้ยงคลัชช่วยไม่ให้รถดับ
Webmaster
Admin
nut
31 Jul 2012 20:33 #11
รบกวนสอบถามระดับความเร็วกับเกียร์ ว่าความเร็วระดับไหนควรใช้เกียร์อะไร พอเรียนไปนาน ๆ เหมือนเริ่มจะสับสน ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
nut
Guest
Webmaster
1 Aug 2012 15:53 #12
ลืมตอบ...
ความเร็วกับเกียร์โดยประมาณนะคะ
เกียร์1 ใช้ที่ความเร็วโดยประมาณ 0-10 ก.ม./ช.ม.
เปลี่ยนไปใช้เกียร์2 ที่ความเร็วโดยประมาณ 10-20 ก.ม./ช.ม.
เปลี่ยนไปใช้เกียร์3 ที่ความเร็วโดยประมาณ 30-40 ก.ม./ช.ม.
เปลี่ยนไปใช้เกียร์4 ที่ความเร็วโดยประมาณ 50-60 ก.ม./ช.ม.
เปลี่ยนไปใช้เกียร์5 ที่ความเร็วโดยประมาณ 60-80 ก.ม./ช.ม
แต่พยายามลองสังเกตรอบเครื่อง หรือฟังเสียงเครื่องยนต์ หรือสังเกตการเปลี่ยนแปลงของรถด้วยค่ะ จะดีที่สุด เพราะไม่อยากให้ใช้หลักการจำ ว่าความเร็วเท่านั้น เท่านี้ต้องเปลี่ยนเกียร์ ถ้าเราสังเกต กำลังรถ ว่าเริ่มหมดกำลัง หรือฟังเสียงเครื่องมันตื่อ.....เราจะรู้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนเกียร์ เพราะเอาจริงๆ ขณะขับรถ ต้องมองไปข้างหน้าที่ถนน ไม่ควรมองหน้าปัดรถนะคะ
Webmaster
Admin
Morale
4 Jan 2013 21:26 #13
:r: ขอบคุณมากๆเรยค่ะ จะลองไปฝึกนะค่ะ (มือใหม่หัดขับ):ss:
Morale
Guest
nat
11 Feb 2013 12:06 #14
รบกวนถามหน่อยครับ
ในขณะที่เราขับรถในหมู่บ้านถนนแคบๆ ความเร็วไม่เกิน 20 หรือ 20 กว่าๆ บางทีก็ 10 แต่ความเร็วรอบไม่ถึง 2000
ถ้าขับเกียร์ 1 เหมือนเครื่องมันอื้อๆ ก็เลยเข้าเกียร์ 2 ทั้งที่รอบไม่ได้ 2000 ได้หรือเปล่าครับ
(เห็นเขาว่าต้องต้องให้ได้ 2000 รอบค่อยเปลี่ยนเกียร์) หรือต้องเหยียบคันเร่งให้รอบถึงก่อน
ในบางจังหวะที่รถช้ามากๆ ต้องลดเกียร์มาเกียร์ 1 มั้ยครับ
ในหมู่บ้านซอยเล็กโค้งบ่อยในทุกครั้งที่เบรก เพื่อดูรถก่อนเลี้ยวในที่แคบๆ นี่เราลดเกียร์มาเกียร์ 1
แล้วปล่อยครัชให้รถเคลื่อนตัวแล้วค้างครัชไว้(รักษาระดับครัชนี้ไว้) แล้วเหยียบเบรกประคองความเร็วกับวงเลี้ยว
แบบนี้ถูกมั้ยครับ
ขอบคุณครับ
nat
Guest
Webmaster
13 Feb 2013 10:01 #15
ขอโทษทีค่ะไม่เห็น เด้วกลับมาตอลได้มั้ยค่ะ เพราะตอบในมือถือมันไม่ค่อยถนัดค่ะ เดี๋ยวกลับไปตอบจากคอมจะง่ายกว่า รอสักครู่นะคะ
Webmaster
Admin
Webmaster
13 Feb 2013 18:31 #16
ถ้าเครื่องอื้อ ให้เข้าเกียร์ 2 ได้เลยค่ะ ให้ฟังเสียงเครื่องดูด้วย เพราะแต่ละคัน สภาพต่างกัน กำลังรถต่างกัน ความสึกหรอต่างกันค่ะ ที่ให้จำเรื่องรอบ เพราะบางคน งง ฟังเสียงไม่รู้เรื่อง เลยต้องมีหลักให้คนที่เพิ่งเรียนจับจุด เลยอาจจะให้ยึดที่ รอบของเครือง หรือ คามเร็วของรถ เช่น เกียร์ 1 ไม่เกิน 10 เกียร์ 2 ที่ 20 เกียร์ 3 อยู่ที่ 30 เพราะตอนที่เราเพิ่งเริ่มมันต้องมีหลักง่ายๆ ให้คนจำได้ หรือจับจุดได้ก่อน จนต่อไปคล่องและขับได้ด้วย sense ค่ะ มันจะรู้เองว่าจังหวะไหนที่ควรจะต้องเปลี่ยนเกียร์ ซึ่ง ณ ตอนนั้น จะเปลี่ยนเองอัตโนมัติ ตามสัญชาตยาน โดยไม่ต้องก้มลงมาดูที่หน้าปัดรถค่ะ
ในบางจังหวะที่รถช้ามาก ต้องเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงตามความเร็วรถค่ะ ถ้าเป็นรถกระบะ กำลังเครื่องสูง ก็อาจจะวิ่งเกียร์ 2 ได้ โดยที่ไม่ต้องลดมาถึงเกียร์ 1 ค่ะ
ในจังหวะที่เลี้ยว ถ้าเบรคหยุดเลยก่อนเลี้ยว ก็ต้องกลับมาออกตัวที่เกียร์ 1 หรือถ้าแค่ชะลอ เกียร์ 2 ไปได้ ก็เกียร์ 2 ได้ จริงๆ ไม่ค่อยอยากให้ติดกับการเลี้ยงคลัชมาก เพราะเด้วเอะอะ เหยียบคลัช เลี้ยงคลัช ซึ่งจังหวะที่ล้างคลัช ช่วงที่รถมีความเร็วจะอันตราย รถมันจะสะบัดแถออกนอกเลนได้ อยากให้เลี้ยวรถ โดยการใช้เบรคชะลอความเร็วรถ จนความเร็วรถ อยู่ในระดับที่สามารถเลี้ยวได้โดยไม่กินเลน ไม่แถ สามารถเลี้ยวได้โดยไม่ต้องเบรคคลัชค่ะ ถ้าชะลอความเร็วรถ หรือ หยุดรถเพื่อเช็ควิสัยทัศก่อนเลี้ยว ก็ควรออกตัวด้วยเกียร์ 1 แล้วเลี้ยงคลัชช่วงออกตัว ถ้าแบบนี้ก็ให้ทำได้ค่ะ
Webmaster
Admin
nat
13 Feb 2013 19:41 #17
ชัดเจนมากเลยครับ อธิบายเข้าใจง่ายเลยครับ
ขอบคุณมากครับ
nat
Guest
นภสร
25 Jun 2013 22:29 #18
ขอถามหน่อยนะคะ
1. ถ้าเราขับรถในเมืองรถมาก ๆ (อยู่ต่างจังหวัดค่ะ)เพิ่งหัด เวลาขะลอรถ ตามหลังรถคันอื่นต้องทำอย่างไร เหยียบครัส แล้วก็เหยียมเบรคเบา ๆ ใช่มั๊ยคะ
2.เวลาเข้าโค้งต้อง ทำอย่างไร
3.ที่เค้าเรียกว่า "เลี้ยงครัช" คืออะไร เหยียมครัฃให้สุด หรือเหยียบเบา ๆ ค๊ะ
ขอบคุณค่ะ
นภสร
Guest
Webmaster
26 Jun 2013 21:42 #19
1. ถ้ารถติดในเมื่องแปลว่ารถช้าอยู่แล้ว ต้องเหยียบคลัชสุด และแตะเบรคเบาๆ อาจจะเลี้ยงคลัชช่วย โดนไม่ต้องใช้คันเร่ง จะทำให้รถไม่ดับ เพราะถ้ารถติดโอกาสรถจะดับจะมีมากขึ้้นค่ะ
2. เข้าโค้ง ก็ลดความเร็วก่อนถึงโค้ง เหยียบครัช ปรับเกียร์ลงมาก่อนถึงโค้ง ปล่อยคลัช เสริมคันเร่ง เลี้ยวไปตามโค้ง ห้ามเหยียบครัชในจังหวะที่โค้ง เพราะรถจะหลุดโค้ง เนื่องจากจังหวะ เหยียบครัช รถจะอยู่ในตำแน่งเกียร์ว่าง
3. เลี้ยงคลัช คือ ปล่อยคลัชไม่หมดค่ะ
Webmaster
Admin
Puma
13 May 2015 09:31 #21
ถามหน่อยครับ 1.ขับมาเร็ว จะเลี้ยวหักศอก เข้าเกียร์ว่างและเบรกชะลอพอถึงใกล้โค้งใส่เกียร์ต่ำจะเหมาะไหมครับ
2.ไม่เคยขับถึงเกียร์4 5เลยครับ อยากรู้ว่าขับมาเกียร์ห้าประมาณ100 อยากจะหยุดรถหรือชะลอ เราเบรกอย่างเดียวให้ความเร็วเหลือเกียร์หนึ่ง โดยไม่ต้องไล่เปลี่ยนทีละเกียร์ลงมาได้ไหมครับ พอจะหยุดจะเข้าว่างครับ
ขอบคุณมากครับ
Puma
Guest