SMILE
หลักการแบ่งชั่วโมงเรียนสำหรับหลักสูตรเกียร์เรียนรวม (ธรรมดา+ออโต้) (23831 views)
8 Apr 2010 14:51
เนื่องจากมีการสอบถามเรื่องเกียร์เรียนรวมมามากมาย และหลักการแบ่งชั่วโมงเรียน ทางโรงเรียนขอแนะนำ ดังนี้ค่ะ
สำหรับเกียร์เรียนรวม ทางโรงเรียนขอแนะนำว่าควรแบ่งชั่วโมงเพื่อเรียนเกียร์ธรรมดาให้มากกว่าเกียร์ออโต้ เนื่องจากหลักการของเกียร์ธรรมดามีมากและยากกว่าเกียร์ออโต้จำเป็นต้องใช้เวลาในสนามมากกว่าเกียร์ออโต้ ตั้งแต่เรียนรู้เบื้องต้น เช่นเหยียบคลัช เลี้ยงคลัช ออกตัว เบรค ทำยังไงไม่ให้รถดับ อีกมากมายจนกว่าจะถึงการจอดรถค้างบนสะพาน การขึ้นห้าง นักเรียนต้องรู้หลักการทั้งหมดจากนั้นจึงจะออกถนนได้ เมื่อขับเกียร์ธรรมดาได้แล้วการเปลี่ยนมาเรียนเกียร์ออโต้จะไม่ใช้เวลามากก็จะสามารถขับได้ ดังนั้การแบ่งเวลาที่โรงเรียนแนะนำ คือ 80% ของชั่วโมงทั้งหมดควรเรียนเกียร์ธรรมดา และ 20% ของชั่วโมงทั้งหมดควรเป็นเกียร์ออโต้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักเรียนนะคะทางโรงเรียนไม่บังคับ เพียงแค่อยากแนะนำ เพราะถ้าแบ่งเวลาไม่เหมาะสม เราอาจไม่ชำนาญทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้เลยค่ะ ซึ่งนักเรียนจะไม่คุ้มค่า มันจะเหมือนเป็ดค่ะ บินก็ไม่เก่ง ว่ายน้ำก็ไม่เก่ง สุดท้ายก็กลายเป็นเสียเงินป่าว ดังนั้นไม่ว่าจะตัดสินใจสมัครที่โรงเรียนไหนก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเป็น SMILE สำหรับหลักสูตรนี้ การจัดสรรเวลาให้แต่ละเกียร์ควรทำอย่างระมัดระวัง เพราะหลาย ๆ โรงเรียน หลักสูตรเกียร์เรียมรวมจะราคาสูงที่สุด และจะพยายามเชียร์ให้นักเรียนสมัครหลักสูตรนี้ ถ้าไปเจอโรงเรียนที่ไม่รับผิดชอบต่อลูกค้า ไม่แนะนำอย่างถูกต้อง สุดท้ายคนที่ไม่ได้ประโยชน์คือตัวนักเรียนเอง แต่ถ้าลงเกียร์ธรรมดาให้มากกว่าเกียร์ออโต้คนที่ได้กำไรมากที่สุดก็จะเป็นโรงเรียนนั่นแหละ เพราะหลักสูตรเกียร์ธรรมดามักจะถูกกว่าเกียร์ออโต้ Trick ง่าย ๆ ลองต่อรองโรงเรียนว่าลงหลักสูตรเกียร์ธรรมดาคิดราคาเกียร์ธรรมดา แต่ 2 ชั่วโมงสุดท้ายขอเรียนเกียร์ออโต้ได้มั้ย เชื่อเถอะค่ะว่าถ้าขับเกียร์ธรรมดาบนท้องถนนได้ 2 ชั่วโมงสำหรับเกียร์ออโต้มันเพียงพอ เพราะไม่จำเป็นต้องปรับพื้นฐาน เพียงแต่ฝึกให้ชินกับการใช้เท้าเดียว เพราะเกียร์ธรรมดาจะใช้ 2 เท้า หลาย ๆ คนพอขับเกียร์ออโต้มักใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรคซึ่งผิดมหันต์
สำหรับผู้ที่ไม่มีเกียร์ธรรมดาที่บ้าน หรือ คิดว่าคงไม่มีโอกาสจะขับเกียร์ธรรมดาหลังจากเรียนจบ ทางโรงเรียนแนะนำว่าควรเรียนเป็นเกียร์ออโต้ไปเลยค่ะ เพราะการขับรถให้คล่องต้องมั่นฝึกฝน แล้วยิ่งเป็นเกียร์ธรรมดา ที่ต้องใช้มือขวาหมุนพวงมาลัย มือซ้ายเปลี่ยนเกียร์ เท้าขวาเหยียบเบรค เหยียบคันเร่ง เท้าซ้านเหยียบคลัช ปล่อยคลัช ประสาทของอวัยวะทั้ง 4 ต้องสัมพันธ์กัน ถ้าไม่ฝึกฝนบ่อยสุดท้ายก็จะลืมค่ะ แล้วไม่ได้ recall กับมาได้ง่าย ๆ สำหรับเกียร์ธรรมดา แต่ถ้าที่บ้านมีก็ควรเรียนอย่างยิ่งเพราะเผื่อมีเหตุฉุกเฉิน เราควรต้องขับได้ค่ะ
สุดท้ายนี้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักเรียนทุกคนนะคะ ไม่ได้บังคับค่ะ แค่มาเล่าสู่กันฟัง เผื่อมีประโยชน์
SMILE
Guest
สไมลล์
9 Oct 2010 09:09 #1
ช่วงนี้คนถามเรื่องนี้บ่อย เอามันขึ้นมาดีกว่า
สไมลล์
Guest
ruk
22 Oct 2010 14:00 #2
เรียนหลักสูตรนี้ไป เป็นแน่นอนคะ คอนเฟริ์ม:):):)
ruk
Guest
Webmaster
23 Oct 2010 12:39 #3
เด้วนี้แปลก นักเรียนเรียนเกียร์ธรรมดา หรือ เกียร์รวม มักจะเป็นผู้หญิง เยอะกว่าผู้ชาย แล้วหลาย ๆ ทีที่เห็น เด็กผู้หญิง ตัวเล็ก ๆ หรือ น่ารัก ๆ บอบบาง เช่นน้องลักษณ์ น้องปุ๊กที่เป็นดารา ลงเรียนเกียร์ธรรมดา เกียร์รวมงี้ เห็นแล้วกลัวแทน กลัวถอดใจก่อนเรียนจบ แต่ที่แปลกหนัก คือ เรียน จบทุกคน แล้วเอาเกียร์ธรรมดาลงสอบในสนามสอบด้วย แบบว่าไม่กลัวรถดับคาสนามบ้างเลยนะ เก่งนะพี่ว่า ซูฮก เพราะพี่ขับทีละเกียร์ค่ะ ใช้เกียร์หนึ่งพัง แล้วค่อยเริ่มใช้เกียร์สอง 555 ป่าวหรอกขับได้แค่เกียร์หนึ่ง เพราะไม่เคยใช้ความเร็ว เลยไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ ออโต้ ก็ไม่ต้องเหยียบคันเบรคปล่อยรถมันไหลไปเอง
Webmaster
Admin
zyberheart
28 Dec 2010 19:06 #5
ขอขอบคุณอาจารย์เอ อาจารย์แตง และอาจารย์กวาง ครับ ที่ช่วยประสิทธิ์ประสาทสอนผมในการขับรถ
ซึ่งในการลงเรียนของผมก็เรียนอัดอย่างเต็มที่ในเวลาที่เร่งรัด แต่ก็ได้ประสบการ์ณหรือคำสอน คำแนะนำดีๆจากอาจารย์อย่างมาก
จนสอบได้ใบขับขี่ได้ตามที่ตั้งใจไว้ (ตามไปช่วนเทรนจนถึงก่อนจะเข้าสอบสนามจริง)
ผมรู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่ได้มากเรียนที่นี่ ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านจากใจจริงๆครับ
ด้วยรักและเคารพครับ
อนุศร
zyberheart
Guest
สไมลล์
29 Dec 2010 17:51 #6
มันต้องอย่างนี้ค่ะ พี่นั่งดูหนูอยู่ข้างสนาม พี่ทราบว่าหนูเรียน กระบะ ซิตี้คันเล็ก และ มาสด้า แต่ถึงเวลาหนูต้องสอบซิตี้ ได้ยินแล้วล่ะว่าไม่เคยเรียนคันนี้ จำไว้ว่าถ้าหนูขับเป็นไม่ว่าคันไหนหนูก็จะขับได้เสมอค่ะ ที่ขับไม่ได้แค่มันไม่คุ้นมือเท่านั้นเอง ซึ่งความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างเราสร้างขึ้นมาทั้งหมด ถ้าขับได้มันขับได้วันยังค่ำ ไม่ว่าจะเป็นรถคันไหน อย่าประมาทเท่านั้นเอง วันนี้หนูต้องสอบคันที่หนูไม่เคยจับหนูก็ทำมันได้ ยินดีด้วยนะคะที่ได้ใบขับขี่มา
สไมลล์
Guest
พงษ์
24 Feb 2011 19:39 #7
สนใจขอสมัครเรียนด้วยครับ ขอตารางเรียนช่วง เดือนมีนา ว่างตอนเย็นครับ
พงษ์
Guest
มิ้น
25 Feb 2011 19:28 #11
สนใจอยากเรียนค่ะ มีอาจารย์ผู้หญิงป่าวค่ะ
มิ้น
Guest
สไมลล์
25 Feb 2011 19:43 #12
ไม่มีคุณครูผู้หญิงค่ะ ถ้ากังวลเอาแบบนี้ดีมั้ยค่ะ พาเพื่อนหรือผู้ปกครองมานั่งเรียนเป็นเพื่อนด้วย
สไมลล์
Guest
มิ้น
25 Feb 2011 22:48 #13
สนใจอยากเรียนค่ะ ขอตารางเรียนนะค่ะ มีอาจารย์ผู้หญิงมั้ยค่ะ
มิ้น
Guest
Webmaster
8 Mar 2011 12:42 #15
ทางโรงเรียนมีหลักสูตรดังนี้ค่ะ
5 ชม 1600 บาท
8 ชม 2500 บาท
10 ชม 2900 บาท
15 ชม 3700 บาท
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตาม Link ด้านล่างเลยค่ะ ซึ่งจะราคาเดียวกัน ไม่ว่าจะเรียนเกียร์ออโต้อย่างเดียว เกียร์ธรรมดาอย่างเดียว หรือเรียนทั้ง 2 เกียร์ค่ะ (ธรรมดา+ออโต้) ซึ่งขึ้นอยู่กับ objective ของผู้เรียนค่ะ เช่นต้องใช้รถทั้ง 2 เกียร์ ก็เรียนรวมดีกว่าค่ะ ทีนี้ค่อยมา work เรื่องจะแบ่งไปเรียนเกียร์ธรรมดากี่ชั่วโมง เกียร์ออโต้กี่ชั่วโมงทีหลังค่ะ
http://www.drivingbysmile.com/customize-หลักสูตร(Course)-54292-1.html
ราคาตามหลักสูตรรวมค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว ใช้รถของโรงเรียนซึ่งรวมค่าครู แก๊ส น้ำมัน ค่าประกันอุบัติเหตุทุกอย่าง ยกเว้นค่าทางด่วน ถ้าต้องการให้ครูพาขึ้นทางด่วนครูพาขึ้นได้ค่ะ แต่นักเรียนต้องเป็นผู้ออกค่าทางด่วน กับเมื่อสอบใบขับขี่ผ่านต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการออกบัตร smart card ให้กรมขนส่งค่ะ จำนวน 205 บาท อันนี้ยังไม่รวมอยู่ในค่าหลักสูตร
ค่าธรรมเนียม 205 บาท ไม่ใช่ว่าเป็นค่าผ่านทางเพื่อให้ได้ใบขับขี่นะคะ ไม่ใช่ค่าซื้อใบขับขี่ หลายคนมักจะเข้าใจผิด เป็นค่าธรรมเนียมการออกใบขับขี่ที่ต้องจ่ายให้กรมขนส่ง เหมือนเวลาเราไปทำบัตรประชาชน เขตก็จะเก็บค่าธรรมเนียมเรา เช่นเดียวกันค่ะ จ่ายเมื่อเราสอบใบขับขี่ผ่าน หากตกต้องรอซ่อมท่าที่ตกก่อน เมื่อผ่านทุกกระบวนการ ถึงจะถ่ายรูปและออก Smart Card ได้ค่ะ
ดังนั้นเสร็จก็เท่ากับจ่ายค่าหลักสูตร เมื่อเรียนจบทางโรงเรียนพาไปทำใบขับขี่ สอบผ่านก็จ่ายอีก 205 บาทให้กรมขนส่งได้ใบขับขี่กลับบ้านค่ะ เป็นเหมือนกันทุกโรงเรียนและก็ทุกขนส่งค่ะ
Webmaster
Admin
ช่า
11 Mar 2011 15:39 #16
กำลังหาที่เรียนอยู่เลยค่ะ: มีรถรับ-ส่งถึงบ้านด้วย ดีๆค่ะเพราะไปแถวโน้นหลงตลอด:)
รบกวนช่วยส่งตารางเรียนช่วงมีนาให้ด้วยนะคะ
ช่า
Guest
Webmaster
11 Mar 2011 16:05 #17
ส่งให้แล้วค่ะ แต่ว่าบ้านอยู่แถวไหนค่ะนี่
Webmaster
Admin
pla
22 Mar 2011 15:35 #18
รบกวนขอตารางเรียน เดือนเมษาด้วยค่ะ รายละเอียดสถานที่ฝึกสอน ด้วยน่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ
pla
Guest
สไมลล์
22 Mar 2011 16:05 #19
ส่งให้แล้วค่ะ สถานที่ฝึกสอน เอาจริง ๆ ก็เน้นประสบการณ์บนถนนค่ะ แต่ว่าเมื่อพื้นฐานแน่น และครู make sure แล้วว่าสามารถพานักเรียนคนนี้ออกถนนได้แบบปลอดภัยค่ะ ซึ่งคาบแรกต้องเข้าสนามก่อน เพื่อสอนพื้นฐานทั้งหมด จากนั้นจะดูว่าพื้นฐานนั้นนักเรียนต้องปรับตรงไหน เช่น การใช้พวงมาลัย เช่นเลี้ยวไม่ดี คืนพวงมาลัยไม่ทัน ครูจะแก้โดยพาไปฝึกเลี้ยว ที่สนามแบบซิกแซก หรือ หมู่บ้าน เลี้ยว ๆ ๆ ๆ ให้ถือพวงมาลัยจนกว่าจะนิ่งและตรงทาง เลี้ยวจนกว่าจะกะจังหวะการคืนพวงมาลัยทัน เพราะปัญหาพื้นฐานของนักเรียนทุกคนอยู่ตรงพวงมาลัยนี่แหละค่ะ หนักที่สุดแล้ว เมื่อพื้นฐานได้ครบถ้วนก็จะออกสู่ถนน ห้างลานจอดรถค่ะ กลับเข้าสนามอีกทีเพื่อเน้นท่าสอบใบขับขี่ค่ะ
สไมลล์
Guest