Molzi

Molzi

Guest

  สอบถามข้อมูลค่ะ (1157 views)

25 Apr 2012 13:52

สวัสดีค่ะ

สืบเนื่องจากที่มลไปโพสต์ไว้ในระบบ RSS FEED เพราะเน็ตที่บ้านมีปัญหา ตอนนี้เลยใช้มือถือเล่นแทนน่ะค่ะ
ตอนนี้เลยมายืมเครื่องเพื่อนเข้าเน็ตก่อน
ในเรื่องการขอให้คุณครูสอนขับรถออกต่างจังหวัด ในสภาพที่มีรถบรรทุก และรถทัวร์เยอะ ๆ

บางทีขี้นเขา ลงเขาด้วย ขนาดเวลาตัวเองนั่งรถทัวร์คันใหญ่ ก็ยังกลัว ๆ เลย ว่าทำไมวิ่งกันเร็วจังเลยน่ะค่ะ
ซึ่งรถมลจะได้ประมาณเดือน ต.ค. น่ะค่ะ ก็คงจะใช้บริการทั้งรถและคุณครูของโรงเรียนก่อนนะคะ
อยากขอความเห็นคุณครูด้วยค่ะ ว่ามลนอยด์เกินเหตุมั้ย สำคัญมั้ยกับการระวังอันตรายเป็นพิเศษในการขับ
ออกต่างจังหวัดค่ะ เพราะคาดว่าต้องเดินทางขึ้นลงกรุงเทพฯ ทุกเดือนและก็ไม่มีคนนั่งเป็นเพื่อนด้วยน่ะค่ะ
พอดีว่ามลเพิ่งเรียนกับทางสไมล์ไป 3 ชม.ในคาบแรก เพราะมากรุงเทพฯ เดือนละครั้ง ก็เลยคิดว่าจะต่อชม.เรียน
ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้รถเดือน ต.ค. น่ะค่ะ เพราะที่บ้านมีแต่รถเกียร์กระปุก ก็ไม่ได้จับเลย
แต่ขอชื่นชมคุณครูทีมาก ทำให้มลที่ปกติเป็นคนขี้ตกใจ หายเป็นปลิดทิ้งโดยอัติโนมัติเลยค่ะ
เพราะครูบอกว่ายังดีมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอด เพราะตกใจแล้วเหยียบเบรคไว้ก่อน 5555

ปล.ขอแอบเคืองน้องแบงค์หน่อยนะคะ ว่าก่อนสงกรานต์ที่มลจองไว้กะว่าจะเรียนให้จบ 10 ชม.เลย แต่น้องแบงค์บอกว่า
โรงเรียนปิด พอมลมาเปิดเวบบอร์ดดูบอกว่าเปิดช่วงสงกรานต์ เคืองเลยค่ะ เพราะนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ตั้ง 3 วันเพราะไม่มีรถ
กลับต่างจังหวัดค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

Molzi

Molzi

Guest

Webmaster

Webmaster

Admin

25 Apr 2012 14:37 #1

ขอโทษทีค่ะ    จริง ๆ สงกรานต์คือ ปิดค่ะ 9-14 เมษา แต่มีครูท่านนึง ครูที เพิ่งมาสอนหลังจากที่จองตั๋วเครื่องบินเอาไว้นานแล้ว (จองตั๋วโปร เลยจองกันข้ามปี ครูเค้าเพิ่งลาออกจากอีกโรงเรียนนึงเลยไม่ได้ร่วมทริป) เค้าไม่ได้ไปไหนเลยเปิดสอนให้คุณครูมีรายได้ แต่มีบางวันที่ครูไม่ได้สอนพารถไปซ่อมบางวัน ต้องผลัดกันเอาเข้าอู่ช่วงไม่ได้ สอน แล้วก็พาลูกไปเที่ยว 1 วัน สรุปแล้วเปิดสอน 1 คัน แต่ไม่ทุกวันค่ะ ดังนั้นขออภัยจริง ๆค่ะ       ถ้าโทรมาก่อนสงกรานต์ ตอนนั้นแจ้งว่า ปิดแน่ ๆ ได้ เพราะตั้งใจจะปิด แต่พอรัฐบาลประกาศหยุดเพิ่มวันที่ 9 เมษา เลยรู้ว่า นักเรียนรอจะเรียนอีกเยอะ ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ก่อนเดินทางเลยตัดสินใจรับนักเรียน เพราะยังมีครูที่อยู่กรุงเทพ เจ้าแบงค์เลยต้องเฝ้าร้านตามระเบียบ

ตารางส่งให้แล้วค่ะ แนะนำว่าควรเรียนพื้นฐาน และการขับในสภาพถนน และการจราจรทั่วๆไปให้ได้ก่อน พอเราชิน หรือคุ้นเคยกับการขับรถสักนิด ก่อนคิดจะไปต่างจังหวัด เพราะเมื่อเราคุ้นเคยกับการขับรถ กล้าตัดสินใจ เรียนรู้พฤติกรรมของเพื่อนร่วมถนน อ่านใจเค้าได้ว่าคิดอะไร จะรู้สึกว่าขับรถที่ไหนก็เหมือนกัน ความกลัว ขี้ตกใจ ระแวงหรือพารานายจะหายไป ตอนนี้อาการนอยด์เป็นปกติของคนที่ไม่เคยขับรถ พอได้ออกถนน จะกลัวนูน กลัวนี่ เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนนี้ต้องใช้เวลา ที่สำคัญเรียนณุ้เรื่องราวพื้นฐาน ฝึกประสบการณ์บนถนน ไปสอบใบขับขี่ให้เรียบร้อยก่อนดีกว่าค่ะ จากนั้นค่อยไปต่างจังหวัดกัน

เพราะพี่มีความเห็นว่า เราจะคิดเสมอว่า คนที่ขับรถใหญ่ หรือ รถบรรทุก ชอบขับตามอำเภอใจ อยากออกเมื่อไหร่ออก ไม่สนใจรถคันหลัง จริงๆเรื่องพวกนี้เป็นจิตสำนึกและมารยาทในการขับรถ การกระทำเช่นนี้ไม่ได้เป็นทุกคน หรือเป็นเฉพาะคนขับรถบรรทุก ในเมือง ในกรุงเทพ เจอได้ทั่วไป ตอนนี้หนูพึ่งเริ่มฝึก ดังนั้นก็จะคิดไปต่างๆ นานา ว่าเจอสถานการณ์แบบนี้เราจะทำได้มั้ย จะควบคุมได้หรือไม่ เจอรถบรรทุกเยอะๆ ขับไม่ได้แน่ ๆ แต่อยากให้คิดแบบนี้ 1 ช่องเลนส์ถนน มันใหญ่มากพอที่รถบรรทุกจะวิ่งได้ เราขับให้อยู่ในเลนส์เรา เค้าอยู่ในเลนส์เค้า อุบัติเหตุมันจะไม่เกิด ถ้ากังวลเรื่องอยู่ๆ เค้าอยากออกก็ออก กิริยานี้ คือ หนูขับตามเค้าอยู่ ตราบใดที่หนูเป็นรถคันที่อยู่ข้างหลัง หนูมีหน้าที่ต้องระวังคันหน้าตามกฎหมายว่าอยู่แล้ว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ หากเค้าเปลี่ยนเลนส์กะทันหัน หลักการทั่วไป เราต้องทิ้งช่องไฟให้ห่างจากคันหน้า ให้อยู่ในระยะที่เบรคทัน ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความเร็วของรถที่วิ่งด้วย ถ้าเราขับเร็วมาก จี้ตูดเพื่อน โอกาสเบรคไม่ทันก็สูง ดังนั้นอาจจะต้องเลือกนิดนึงว่าถ้าตามเค้า ก็เว้นช่องไฟให้มีระยะเบรค หรือไม่ก็แซงเค้าไป ไม่แน่ใจว่าครูสอนเรื่องการแซงแล้วหรือยัง

ดังนั้นตอนนี้ตั้งใจเรียน ขับให้ได้ ไปสอบก่อน เด้วพอคุ้นเคย ทุกอย่างจะดีขึ้น รถบรรทุกอย่ากลัว เค้าไม่แตกต่างจากรถเก๋งเหมือนกัน แต่อยากให้เข้าใจลักษณะทางกายภาพเค้านิดนึงค่ะ คันใหญ่ย่อมเชื่องช้า ไม่ปรู๊ดปร๊าดปราดเปรียวเหลือรถเก๋งที่คันเล็กแต่ซีซีเยอะ บางทีเค้าไม่อยากตัดหน้า แต่พอเค้าออกมาแล้วกว่าจะกลับเค้าเลนส์มันไม่ปุ๊บปั๊บเหลือรถเก๋งค่ะ    สู้ สู้ค่ะ


Webmaster

Webmaster

Admin

Molzi

Molzi

Guest

25 Apr 2012 15:00 #2

ไม่เป็นไรค่า หนูให้อภัยอยู่แล้วล่ะ เพราะได้ดูหนังตาแฉะเลยไง 3 วัน :b:
คุณผึ้งเก่งจังเลยค่ะ อธิบายจิตวิทยาจนเห็นภาพเลยค่ะ:h:
จริง ๆ ก่อนหน้านี้คิดว่าตัวเองเป็นคนขับรถไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเป็นคนใจร้อนสุด ๆ
นั่งกับคนอื่น หรือว่านั่ง taxi ก็แล้วแต่ถ้ารีบนะ แบบหงุดหงิดสุด ๆ ว่าทำไมถึงไม่ไปเร็ว ๆ
ช่องนี้ก็ไปได้ หรือใครขับไม่มีมารยาทใส่จะแบบ ทำงี้ได้ไงอ่ะ ไม่ยอม
แล้วทีนี้มีน้องที่รู้จักคนนึงเป็นผู้หญิงค่ะ ออกรถมาใหม่ น้องเค้าลักษณะเป็นคนมั่นใจ
เปรี้ยวจี๊ดเลยค่ะ ปรากฎว่าขับชนทุกอาทิตย์เลย จนที่บ้านต้องแบน ห้ามขับอีกเลย
มลก็เลยกลับมาคิดว่า ตายแล้ว เราจะเป็นแบบนี้ในอนาคตหรือเปล่า เพราะขนาดน้องเค้า
ดูมั่นใจ ขับมอเตอร์ไซค์ออกถนนใหญ่ไปไหนมาไหนตั้งนาน ยังชนทุกอาทิตย์เลยค่ะ

มีอีกเรื่องจะถามค่ะคุณผึ้ง คือมลคงไม่ได้ไปสอบใบขับขี่กับทางสไมล์หรอกค่ะ
เพราะจริง ๆ แล้ว มลแอบแม่มาเรียน :l: 5555 เพราะเค้าจะให้คนอื่นสอนให้ไง แต่มลแบบว่า
ไม่มั่นใจไง เลยแอบมาเรียนเองดีกว่า แต่ถ้ามีเวลา มลก็อยากไปดูบรรยากาศการสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติกันน่ะค่ะ (ถ้ารถไม่เต็มนะคะ):r:

Nice to meet you ka.:hh:

Molzi

Molzi

Guest

Webmaster

Webmaster

Admin

25 Apr 2012 15:42 #3

อยากเตือนว่า การขับรถ อย่าใจร้อน   เพราะมันไม่ต่างกับ การเมาแล้วขับ การใจร้อน ทำให้เราขาดสติ อุบัติเหตุเกิด ไม่ใช่แค่ทำให้เสียเวลามากขึ้น แต่ทำให้รถหรือทรัพย์สินเสียหาย ถ้าหนักเราก็เจ็บตัว บางทีพาลทำให้เพื่อนร่วมถนนเดือดร้อนด้วย เอาช้าแต่ชัวร์และปลอดภัยดีกว่าค่ะ

ส่วนมือใหม่ กับอุบัติเหตุ ถามพี่ว่าแปลกมั้ย พี่ก็ว่าไม่แปลก แต่ถามว่าเป็นเพราะ personality ของเพื่อนหนูหรือป่าว พี่ก็ว่าไม่ใช่ น่าจะเพราะประสบการณ์น้อยและระวังไม่เพียงพอเท่านั้นเอง จะเปลี่ยนเลนส์ กระจกข้างต้องมอง ไม่ใช่อยากออกก็ออก ดังนั้นคนที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่เพราะเป็นคนเปรี้ยว ทำอะไรรวดเร็ว เพียงแต่เร็วไปจนขาดความระวังเท่านั้นเอง แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างในการขับรถ แล้วอย่าโทษสีรถ โทษฤกษ์ มันไม่ได้เกี่ยวกันเลย    ถ้าชนบ่อยเฉี่ยวบ่อย เพราะกะระยะไม่ถูก ลืมดูซ้าย ลืมดูขวา อันนี้แค่ถามตัวเองว่าครั้งนี้ชนเพราะอะไร แล้วต่อไปก็แก้ไขซะ ก็คือดูมันซะ มองมันซะ ต้องฝึกบ่อย ๆ จนจับจังหวะได้ แต่พี่ไม่ได้บอกว่าต้องฝึกกับโรงเรียนสอนขับรถ ฝึกที่ไหนก็ได้ ขับรถไม่ได้ยาก เพียงแต่ 1. มีคนยอมนั่งเป็นเพื่อน เพื่อฝึกกับหนูหรือป่าว  2. เค้ารับได้มั้ย ถ้าฝึกแล้วรถมีรอยเฉี่ยวชน ผู้ปกครองบางท่านหวงรถ โรงเรียนสอนขับรถถึงเป็นทางเลือกเท่านั้นเองค่ะ เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสมอไปค่ะ  

ปัจจุบันนี้ สอบใบขับขี่ที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องสอบที่ที่ทะเบียนบ้านอยู่ ไหน ๆ หนูจะขอติดตามไปดูบรรยากาศการสอบแล้ว จะให้เสียเวลาทำไม ไปแล้วก็ไปสอบเลย ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดีซะอีก ได้ใบขับขี่มา ก็เอาไปอวดพ่ออวดแม่ ว่าเราไปสอบมาเอง ไม่ได้เสียเงินซื้อสักบาท ความสามารถตัวเองล้วนๆ อย่างน้อย พ่อแม่ก็ใจชื้นมานิดนึง ว่าลูกไปสอบใบขับขี่มาด้วยความสามารถของตนเอง สมควรแก่เวลาที่จะได้ใช้รถ ที่สำคัญท่าสอบใบขับขี่เป็นท่าพื้นฐาน และใช้ในชีวิตประจำวัน การที่เราไปสอบแล้วสอบผ่านได้ด้วยตัวเอง มันเป็นจุดวัดความพร้อมของตัวเราได้ระดับนึงว่าเราพร้อมใช้รถแล้วหรือไม่ แต่ขณะเดียวกัน ใบขับขี่ไม่ได้วัดว่าเราสามารถขับได้ดีและปลอดภัยนะคะ มันบอกแค่ว่าเราขับได้ จะให้ดีและปลอดภัยต้องฝึกแล้วใช้เวลา นานแค่ไหนบอกไม่ได้ แล้วแต่คนจริงๆ บางคนดีตั้งแต่มาเรียนเพราะเค้ารอบคอบ บางคนเรียกว่าเป็นปีก็ดี อย่ากลัวมาก กลัวมากแล้วเป็นช้า    

Webmaster

Webmaster

Admin

Post reply
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com